
สวัสดีครับนิสิตที่รักทุกคน อาจารย์ก็กลับมาพบกับพวกเราอีกครั้งแล้วในรายการ... “สอนไปบ่นไป”...อาเจ๊ย..ม่ายช่าย ติดรายการทีวีมากไปหน่อยนะนี่
เป็นไงกันบ้างครับนิสิตที่รักทุกท่าน เริ่มจะเบื่อ เซ็ง กับการฝึกงานรึยัง (ยกมือสลอนเลย) เป็นธรรมดาครับ อาการนี้ (เบื่อ เซ็ง) จะเกิดกับทุกคนไม่ยกเว้น หน้าไหนใครทั้งสิ้น เมื่อคนเราได้ทำอะไรซ้ำๆซากอยู่บ่อยๆ (มนุษย์ขี้เบื่อ) สาเหตุของอาการเบื่อหน่าย เซ็งนี้ก็ไม่เหมือนกัน อย่างที่เคยพูดไว้แล้ว ส่วนคนที่ยังไม่เกิดอาการเหล่านี้ก็นับได้ว่าเป็นผู้โชคดีไป
วันนี้จะมาคุยในเรื่อง “ความอดทนต้องมาก่อน” หลายคนอาจจะบอกว่า “แน่นอนอยู่แล้วค่ะอาจารย์ อดทนไว้ก่อนพ่อสอนไว้” นี่ก็ดีไปสำหรับคนที่มีพ่อสอน แต่บางคนโชคร้ายดันพ่อไม่สอนซะนี่ (ฮา..อันนี้ล้อเล่น) อาจารย์เลยต้องมาสอนแทน
คล้ายๆกับสโลแกนนักการเมืองมั้ย บางพรรคบอก “ประชาชนต้องมา (คูหาเลือกตั้ง) ก่อน” (ต้องมาก่อนดิถ้าประชาชนไม่มาคูหา จะมีคะแนนหย่อนลงหีบบัตรเหรอ) แต่วิธีที่จะทำให้คนยอมมานี่สิ มันไม่สวยหรูหรอกนะ..พูดมากเดี๋ยวเรื่องจะยาว...เอาเป็นว่าวันนี้เราจะไม่พูดเกี่ยวกับเรื่องการเมืองละกัน
กลับเข้าเรื่องกันดีกว่า...จริงๆแล้วเรื่องความอดทนนี่สำคัญมาก เพราะความอดทนเป็นความรู้สึกว่า “เราทนได้” เหมือนสีทนได้รึป่าว ไม่รู้นะ บรรดาผู้ประสบความสำเร็จในชีวิตทั้งหลายต่างจากผู้เกือบประสบความสำเร็จ อยู่เพียงนิดเดียว คือความอดทน อาจารย์ลองตรวจสอบกับตัวเองแล้วพอจะได้คำตอบที่คล้ายกัน สังเกตมั้ยเวลาที่เรานั่งทำงาน ผู้คนที่นั่งอดทนกับงานได้อย่างยาวนาน ทำอย่างต่อเนื่องไม่ลดละความพยายาม ความสำเร็จของงานก็จะเกิดกับผู้นั้นทันทีทันใด ไม่ต้องรอให้เทวดาหน้าไหนดลบันดาล พูดง่ายๆคือความอึด นั่นเอง ใครมีความอึดสูง นาน ย่อมเหนือกว่าผู้อื่น อันนี้หลายคนคงไม่เถียง แต่ประเด็นสำคัญแล้วจะทำอย่างไรให้ความ “อดทน” มันอยู่กับเรานานๆ หรือตลอดไป นี่ตะหากสำคัญ
แน่นอนว่าทุกคนมีความอดทน แต่จะอดทนได้นาน หรือบ่อยแค่ไหน เป็นเรื่องที่ต้องมาสร้างกัน อาจารย์อยากจะยกอุทาหรณ์ของนักต่อสู้คนสำคัญมาถ่ายทอดให้พวกเราฟัง
คนแรกคือ “จา พนม” นักต่อสู้แห่งองค์บาก ชีวิตของจานั้น ลำบากสุดๆ ก่อนที่จะมาเป็นจาในวันนี้ จาในวันก่อนต้องผ่านความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า “ความลำบากไหนเลยจะสู้ความอดทน” จาใช้เวลาฝึกฝนกับการแสดงอยู่นานเพื่อสร้างฝันตนเองให้สำเร็จ แน่นอนว่าวันเวลาช่างยาวนาน ขมขื่น แต่ต้องอดทน มีครั้งหนึ่งที่จา ยอมควักเงินของตนเองทั้งหมดที่มีและยืมเงินจำนวนมากโข เพื่อสร้างหนังตนเองเมื่อครั้งแรกทำงานกับผู้กำกับ พันนา แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลกกับเขา เมื่อบริษัทที่ล้างฟิล์มโทรมาบอกว่า ฟิล์มหนังที่ถ่ายทำเสร็จแล้ว เสีย ทั้งหมด “จา” กับ “พันนา” ถึงกับกอดคอกันร้องให้ เพราะสำหรับเขานั่นคือทั้งหมดของชีวิต
หากจา ไม่มีมีความอดทนเขาคงไม่ต่อสู้ต่อไปอีกแล้ว ในทางกลับกัน จาหันไปบอกพันนา ว่า “ฟิล์มเสียไปแล้วแต่ความสามารถยังอยู่ในตัวเขา” “เรามาเริ่มต้นกันใหม่ดีกว่า” ทันทีที่เขาเปลี่ยนจากความท้อแท้ มาเป็นการตัดสินใจสู้ใหม่อีกครั้ง ชีวิตของคนคนหนึ่งก็พลิกเปลี่ยนไปทันที
ภาษิตชาวยิวกล่าวไว้ว่า “ความลำบากย่อมมาก่อนความสบายเสมอ” ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย ความลำบากจึงอาจจะยิ่งกว่าในสิ่งที่เราไม่อาจคาดคิด นิสิตทั้งหลายการฝึกงานอาจต้องเจอความลำบาก ความเบื่อ ความเซ็ง มากมาย รับรู้และเข้าใจมันซะ พักซักนิด แล้วกลับมาเริ่มใหม่ หาแนวคิด นำหัวใจหันมาสู้ ด้วยความอดทน และอดทน ข้อคิดเห็นของอาจารย์ในวันนี้จึงสรุปได้ว่า “ความอดทนต้องมาก่อน” ด้วยเหตุแบบนี้แล
มานิตย์
ความลำบากจะทำให้เราเข้มแข็ง ด้วยใช่ไหมคะอาจารย์
ตอบลบขอบคุณมากๆค่ะ..
เข้าพรรษา..ทำบุญที่ไหนคะ
แน่นอนครับ ความลำบากเป็นเครื่องพิสูจน์คน
ตอบลบอาจารย์คงทำบุญกับสังคมครับ.. และต้องทำบุญกับตนเอง การช่วยเหลือ แบ่งปัน และการคิดดีไม่อิจฉา ริษยา ไม่โกรธ ไม่เกลียด แค่นี้ก็เป็นการทำบุญแล้วหละครับ
หลับตา ทำใจให้สงบ ร่างกายก็ได้พัก ใจก็เบิกบานได้ครับ
ค่ะ..อาจารย์
ตอบลบ