ไม่มีใครชนะโดยไม่มีผู้็แพ้

สวัสดีครับนิสิตที่รักทุกท่าน

เผลอแป๊บๆ บอลโลกก็ลาโรงกันแล้ว เย้อ.. ไม่ใช่ เผลอแป๊บๆพวกเราก็ออกฝึกงานกันเป็นเดือนแล้วนะครับ จากเดือนสู่เดือน เวลาเลื่อนเคลื้อนย้ายไป เท่าที่สังเกต อาจารย์พบว่า เจ้าเวลานี่มันเดินมา เร็วบ้าง ช้าบ้างไม่เท่ากันนะครับ ว่ามั๊ย

เคยสังเกตมั้ยครับ ทำไมน๊าเวลาบางวันก็แสนช้า บางวันก็แสนเร็ว ทั้งๆที่เวลานี่มันก็มีจำนวนเท่ากันในแต่ละวันนะ 24 ช.ม. เท่ากัน

แนะ...บางวันก็แสนเหนื่อย บางวันก็แสนสบาย เอาซักหลักแสนก็คงพอนะครับ อย่าถึงหลักล้านก็แล้วกัน ถ้าล้านสบายก็พอว่า แต่ถ้าล้านลำบากนี่ คงหนักอยู่ (ล้อเล่น) ในช่วงนี้หลายคนคงได้ยินข่าว เรื่องผู้แพ้ ผู้ชนะกันอยู่พอสมควร อาจารย์หละก็คนนึง บางวันก็มาพร้อมกับชัยชนะ ของทีมฟุตบอล...(สเปน แชมช์โลก ฮาๆๆ) ม่ายช่าย.. มาพร้อมกับความรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ชนะ บางวันก็รู้สึกว่าตัวเองมากับความเป็นผู้แพ้

วันไหนที่รู้สึกชนะ วันนั้นช่างมีความสึกเนอะ แต่บางวันที่เราเป็นผู้แพ้ วันนั้นช่างเศร้าหมองเสียนี่กระไร ดูโลกมันทึมๆ หม่นๆ อลเวงน่าดู

โอโช (OSHO) นักปราชญ์แห่งประเทศอินเดีย ผู้นำเสนอแนวคิดการบำบัดจิตใจ มีคนนำมาเขียนเป็นหนังสือและแปลมาเป็นภาษาไทยชือหนังสือว่า สปาร์อารมณ์ (Emotional Wellness) ได้บอกเอาไว้ว่าการที่สภาพจิตใจของเราบางวันก็เศร้า บางวันก็สดชื่น คละเคล้ากันไปนั้น เป็นเพราะ สิ่งหนึ่งที่อยู่ในใจเราซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา สิ่งนั่นคือ e-motion (อีโมชั่น) ถ้าแปลเป็นภาษาไทยก็ชื่อบอกอยู่แล้วว่า อี ก็ ผู้หญิง โมชั่น ก็แปลว่าเคลื่อนไหว โดยรวมแล้ว อีโมชั่น ก็เลยแปลว่า "อีเคลื่อนไหว"

พอจะเห็นแล้วมั้ยหละ ทำไม มันเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอดหละ ก็เพราะว่ามันเคลื่อนไหวไปมาในใจเราตลอดไง อาจารย์กำลังพูดถึงสิ่งที่ทำให้จิตใจของเราเปลี่ยนแปลง สิ่งที่ทำให้ใจเราเศร้าหมอง และสิ่งที่ทำให้ใจเราสดชื่น เบิกบาน สิ่งนั้นคือ "อารมณ์" นั่นเอง

ฉะนั้น อย่าแปลกใจนะ ถ้าวันไหนเราเศร้า หรือวันไหนเราเบิกบาน ลองปล่อยให้มันเศร้าเต็มที่ดูสิ ว่ามันจะเศร้าได้กี่วัน รับรองเลยว่า เจ้าอีโมชั่นเนียะ ไม่ยอมอยู่นิ่งแน่ สองวัน สามวัน มันขี้เซ็ง มันก็หยุดเศร้าเอง ในทางกลับกัน วันไหนที่เบิกบาน เล่นกะนางดูสิ ไม่มีทางหรอกที่นางจะเบิกบานไปตลอด มีซักวันแน่ที่นางจะจากเราไป

รู้อย่างงี้แล้ว เราก็เพียงแต่ปล่อยให้แม่นางอีโมชั่นเคลื่อนไปเคลื่อนมา แค่สังเกต แค่รับรู้ ก็พอ แต่อย่าไปคิดตาม อยากเศร้า ก็เศร้าเลยแม่นาง แล้วแม่นางจะไปเมื่อไหร่ก็ไป อยากสุข ก็สุขเลยแม่นาง ฉันพอรู้ว่าเธอคงสุขไม่นานก็จะจากฉันไปอีก เป็นอย่างงี้เรื่อยไป

ในการทำงานกิจการ หรือสิ่งใดก็เหมือนกัน ว่ากันว่าถ้าผู้ใดแต่งงานใหม่ จะตื่นเต้นและมีความสุขใน 1 ปี ผู้ใดได้รถใหม่ ก็จะดีใจภายในหนึ่งเดือน ผู้ใดได้เสื้อผ้าใหม่ ให้เวลาสุขใจเพียง 3 วัน

ฉะนั้นถึงอาจารย์จะยินดีกับสเปนที่เอาชนะ เนเธอร์แลนด์จนเป็นแชมน์โลก แต่การที่เยอรมัน อิตาลี เนเธอร์แลนด์ แพ้นี่ อาจารย์ก็พอจะำทำใจได้บ้าง.. คงไม่เกินสองสามวัน (เกี่ยวมั้ยนี่..) แฮ่ๆ อาจารย์กำลังจะบอกว่า...

ในการฝึกงานครั้งนี้ เป็นแน่แท้ทีเดียวว่า พวกเราทั้งหลายคงได้เจอกับความสุข ความสบายใจ ความลำบากใจ ความคับแค้นใจ ความลำบากกาย ไม่มากก็น้อยแล้วแต่สภาพและการกระทำ จากเพื่อน จากเจ้านาย จากนายจ้าง จาก ผ.อ. จากนายอำเภอ ผู้ว่าฯ...จึ๋ย (ว่าไป) เห็นรายงานข่าวเข้ามาแต่ละสัปดาห์ ก็เห็นพัฒนาการของแต่ละคน กิจกรรมมากมาย งานเยอะแยะ (จะขนกลับ มหาวิทยาลัยไหวมั้ยน๊อ..ล้อเล่น สู้ๆ)

ขอเพียงเรารับรู้ ทั้งสุขและทุกข์ ย่อมเกิดได้ เมื่อยามใดเราต้องเจอกับความทุกข์ให้บอกตัวเราและผองเพื่อนว่า ไม่นานเจ้าอีโมชั่นนี้จะหายไป จะเคลื่อนไป และในทางกลับกันเมื่อไหร่เจอสุข ก็บอกผองเพื่อนและตัวเองเช่นเดียวกัน เจ้าความสุขก็จะหายไปเช่นกัน หมุนเวียนเปลี่ยนผ่านเป็นสภาพอารมณ์ของแต่ละคน แต่ละจิตใจ

สุขกายสบายใจ หากเรารับรู้อย่างเท่าทัน เจ้าอารมณ์ของเรา อารมณ์ของเพื่อน อันไหนจะทำให้เจ้าอีโมชั่นมันมาเร็วไปเร็ว จงทำ อันไหนที่พอจะให้อภัยเพื่อน เจ้านาย เจ้าพ่อ เจ้าแม่ ทั้งหลายได้ จงทำ ให้อะไรไม่เท่ากับให้อภัย ใจเราจะเบิกบาน ใจเราจะปล่อยวาง...

ฉะนั้นเทศนาครั้งนี้จึงสรุปได้ว่า ฟุตบอลโลก 2010 "จะไม่มีใครชนะถ้าไม่มีผู้แพ้" โดยประการฉะนี้แล

ทิ้งทายด้วยข้อคิดของฝาก จากท่านพุทธทาส ภิกขุ ก็แล้วกันนะครับ

มองแต่แง่ดีเถิด

เขามีส่วน เลวบ้าง ช่างหัวเขา
จงเลือกเอา ส่วนที่ดี เขามีอยู่
เป็นประโยชน์ โลกบ้าง ยังน่าดู
ส่วนที่ชั่ว อย่าไปรู้ ของเขาเลย
จะหาคน มีดี โดยส่วนเดียว
อย่ามัวเที่ยว ค้นหา สหายเอ๋ย
เหมือนเที่ยวหา หนวดเต่า ตายเปล่าเอย
ฝึกให้เคย มองแต่ดี มีคุณจริง

มานิตย์